เคล็ดลับสร้างวิดีโอแนวตั้งให้สินค้าดูปัง

แนวโน้มความสนใจของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสและกาลเวลา ดังนั้น นักการตลาดที่จะวางแผนแก้เกมการตลาดให้ขายดีนั้น ต้องทันกระแส ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ ในเรื่องของการถ่ายวิดีโอก็เช่นกัน  จากเดิมที่นิยมถ่ายวิดีโอแนวนอน เพราะแสดงผลในมุมมองสัดส่วน 16:9  ซึ่งมีความเชื่อมโยงมาจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น ยูทูบ การออกอากาศทางโทรทัศน์  แต่ปัจจุบันคนดูคลิปต่างๆ ผ่านมือถือกันมากขึ้น มีการทำวิดีโอเองอย่างง่ายๆ ด้วยมือถือกันมากขึ้น และพฤติกรรมการดูวิดีโอผ่านมือถือ ส่วนใหญ่จะถือโทรศัพท์ในแนวตั้ง ทำให้การรับชมวิดีโอแนวตั้งมีความสำคัญมาก  และมีผลต่อการรับรู้ของคนดูมากด้วยเช่นกัน  และนี่คือ เคล็ดลับที่จะช่วยให้วิดีโอแนวตั้งของเรามีประสิทธิภาพขึ้นกว่าเดิม

1. งานโปรดักชั่นไม่ต้องแพง

สำหรับแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องทุ่มงบไปจ้างโปรดักชั่นแพงๆ หรือซื้ออุปกรณ์มีราคามาถ่ายทำ เพื่อให้วิดีโอของเราสมบูรณ์แบบ เพราะโปรดักชั่นที่ใช้เครื่องมือดีๆ ไม่ได้แปลว่าจะมีคนกดไลก์ กดแชร์ หรือมีเสียงตอบรับที่มากกว่าวิดีโอที่ถ่ายเองเสมอไป แต่สิ่งสำคัญ คือเรื่องที่จะเล่าเกี่ยวกับสินค้าของเราน่าสนใจหรือไม่ ในวิดีโอนั้นต่างหาก ซึ่งทุกคนลองฝึกถ่ายวิดีโอเองได้ ด้วยมือถือของเรา อยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์และความสนุกในการลองทำต่างหาก

2. สัดส่วน 9:16 เต็มจอมากที่สุด

อย่างที่บอกไปในตอนต้น ว่ายุคนี้เป็นยุคของวิดีโอแนวตั้ง ที่ทำให้สะดุดตาของคนใช้มือถือมากกว่า ซึ่งสัดส่วนวิดีโอแนวตั้งที่จะปรากฏเต็มจอมากที่สุดคือ 9:16 รองลงมา คือ สัดส่วน 4:5 สามารถใช้ได้กับทั้งเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ซึ่งทำให้ผู้ใช้มือถือ ที่อาจเป็นลูกค้าของเราในอนาคต ต้องหยุดสายตาไว้ที่วิดีโอของเรา โดยไม่เลื่อนผ่าน และไม่ต้องเสียเวลาหมุนหน้าจอ อีกสัดส่วนรูปแบบหนึ่งที่แนะนำก็คือ สัดส่วน 1:1 เป็นแนวสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพราะสามารถกลมกลืนอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ตกขอบ ไม่ต้องพลิกจอ โดยมุมมองวิดีโอแนวนอน ในสัดส่วนแบบ 16:9 ไม่เป็นที่นิยมสำหรับวิดีโอโฆษณาสินค้าบนมือถืออีกต่อไป เพราะต้องทำให้ลูกค้าเสียเวลาหมุนจอมาดู และการแสดงผลบนหน้าฟีด ยังทำให้เห็นภาพไม่เต็มจอ เป็นแบบสัดส่วน 1:2 ทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะเลื่อนผ่านไปก่อนที่จะได้รับชมเนื้อหาดีๆ ที่เรานำเสนอ

3. ลองปิดเสียงดู ถ้าใจความสำคัญอยู่เป็นใช้ได้

จากสถิติ พบว่า วิดีโอกว่า 85% บนเฟซบุ๊ก ถูกรับชมแบบปิดเสียง ดังนั้น ก่อนเผยแพร่หรือโพสต์วิดีโอ ควรทดลองดูวิดีโอแบบปิดเสียงดู หากปิดเสียงแล้ว วิดีโอนั้นยังสื่อสารได้ โดยมีใจความสำคัญของสินค้าที่เรานำเสนออยู่ครบถือว่าใช้ได้

4. สะกดใจใน 3 วินาทีแรก

พฤติกรรมของคนในยุคนี้มีการไถหน้าจอมือถือกันอย่างรวดเร็ว การสะกดความสนใจคนดูให้อยู่ภายใน 3 วินาทีแรกจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้น ในตอนต้นควรพูดสิ่งที่สำคัญออกไปเลยตั้งแต่เริ่ม

5. อย่าหวงเรื่องเล่า

การเล่าเรื่อง ที่มีอารมณ์ความรู้สึก และสะท้อนถึงแนวคิดของเรา จะทำให้วิดีโอน่าติดตาม เพราะลองเปรียบเทียบ เราคงไม่อยากฟังคนพูดแต่ข้อมูลตรงๆ พูดถึงแต่ราคา แล้วก็ขายๆๆ เท่านั้น แต่เราคงอยากฟังเรื่องเล่าที่บอกถึงที่ไปที่มาของสินค้าที่ตั้งใจทำขึ้นมา ได้เห็นความใส่ใจของร้านค้าที่เรากำลังตัดสินใจจะซื้อ

6. ใช้วิดีโอต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม

ไม่ควรใช้วิดีโอตัวเดียวกันเผยแพร่ลงไปในทุกแพลตฟอร์ม เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีบุคลิกต่างกัน พฤติกรรมของผู้ใช้แต่ละแพลตฟอร์มก็มีความแตกต่างเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็น TikTok ก็ควรปรับเนื้อหาให้สั้น กระชับ ถ้าเป็นเฟซบุ๊ก อาจตัดต่อวิดีโอนั้นให้ยาวขึ้นอีกหน่อย

เคล็ดลับเหล่านี้หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนสร้างวิดีโอได้อย่างสนุกขึ้น และใช้วิดีโอแนวตั้งนี้ช่วยให้การขายมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

รับข่าวสารได้ที่ https://lin.ee/rSI44iK

#โกดิจิทัลอาเซียนไทย #การตลาดออนไลน์